ในปี 1993 John Wadsworth และ Stephen Story นักวิทยาศาสตร์ด้าน
โภชนาการชื่อดัง ได้รู้จักกับผลไม้ชนิดหนึ่งบนหมู่เกาะเฟรนช์โพลินีเซีย (หมู่เกาะตาฮิติ) ที่อุดมไปด้วยสารที่มีคุณค่า และมีส่วนสำคัญต่อร่างกาย และเป็นที่รู้จักกันในนามของ"โนนิ" (Noni) หรือที่คนไทย เรียกสมุนไพรที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ว่า"ลูกยอ" ซึ่งชาวพื้นเมืองที่นั่นใช้เป็นอาหารเพื่อบรรเทาอาการและรักษาโรค รวมทั้ง
ใช้ดูแลรักษาสุขภาพ ความงามมานานกว่า 2,000 ปี
 

ต่อมาได้มีการค้นพบการค้นพบสารสำคัญในโนนิ (Morinda Citrifolia) ในปี คศ. 1950 โดย Dr. Ralph Heinicke (ดร.ราฟ ไอเนกี) นักชีวเคมีชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง ได้ทำการวิจัยและ ค้นพบ เอนไซม์ในสับปะรด ซึ่งเป็นอัลคาลอยด์ชนิดหนึ่งที่เขาตั้งชื่อไว้ว่า Xeronine (เซโรนีน) และได้มีการศึกษาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา จนได้พบว่า มีสารนี้ในผล Noni มากกว่าในสัปปะรดหลายสิบเท่า และได้มีการวิจัยอย่างต่อเนื่อง และได้พบเห็นคุณประโยชน์อันน่าอัศจรรย์อีกมากมายในผล Noni และในปี 2010 ได้ถูกเรียกชื่อใหม่ว่า Bioactive Compound (กลุ่มสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ) ซึ่งมีสาร Iridoids (อิริดอยส์) เป็นหนึ่งในกลุ่มสารที่โดดเด่นที่สุดและเป็นประโยชน์ทางการแพทย์

 John และ Stephen ได้ทำการศึกษาสารอาหาร และประโยชน์ของผลไม้ชนิดนี้ร่วมกับ Dr. Ralph Hienicke นักชีวเคมีจากมหาวิทยาลัยฮาวาย ซึ่งเป็นผู้ค้นคว้าและวิจัยสารอาหารสำคัญต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในผลโนนิ โดยทั้ง John และ Stephen ได้ทุ่มเทเวลากว่า 3 ปี ทำการวิจัยและพัฒนา เพื่อจะทำให้ผลิตภัณฑ์จากผลโนนิ สามารถรักษาคุณค่าจากธรรมชาติให้ใด้มากที่สุด จนกระทั่งได้เป็นผลิตภัณฑ์ "น้ำผลไม้ ตาฮิเตียนโนนิ" (Tahitian Noni Juice) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก โดยได้รับการศึกษาวิจัยแล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากผลโนนิที่ดีที่สุดในโลก และปัจจุบันน้ำผลไม้ ตาฮิเตียนโนนิ เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ได้ถูกบรรจุลงใน PDR (Phisician Desk Reference) ซึ่งเป็นคู่มือเกี่ยวกับทางด้าน
การแพทย์ด้วย